Logado com sucesso! green

เตรียมเอกสารสำหรับยื่นวีซ่า ต้องแปลอะไรบ้าง?

เตรียมเอกสารสำหรับยื่นวีซ่า ต้องแปลอะไรบ้าง?

  • เมษายน 2568
  • Pawano Team
  • 68 Read

การยื่นขอวีซ่าไม่ว่าจะเพื่อการท่องเที่ยว ศึกษาต่อ หรือทำงานในต่างประเทศ ล้วนต้องใช้เอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาของประเทศปลายทาง และ การแปลเอกสารอย่างถูกต้อง เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้กระบวนการผ่านง่าย รวดเร็ว และไม่มีปัญหาในภายหลัง บทความนี้จึงจะช่วยสรุปรายการเอกสารที่มักต้องแปลเมื่อยื่นวีซ่า พร้อมแนวทางการเตรียมตัวให้คุณพร้อมยื่นได้อย่างมั่นใจ

ทำไมต้องแปลเอกสารเพื่อยื่นวีซ่า?

อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่า การยื่นขอวีซ่าสำหรับเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเพื่อการท่องเที่ยว ศึกษาต่อ หรือทำงาน หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือการจัดเตรียมเอกสารประกอบคำร้องให้ครบถ้วนตามข้อกำหนดของสถานทูต ซึ่งส่วนใหญ่มักกำหนดให้เอกสารต้องอยู่ในรูปแบบภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาทางการของประเทศปลายทางก่อน

การแปลเอกสารจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของความสะดวกเท่านั้น แต่เป็นข้อกำหนดที่จำเป็น ซึ่งหากละเลย อาจทำให้การยื่นคำร้องล่าช้า หรือเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธคำขอวีซ่าได้ แล้วทำไมเราจึงต้องแปลเอกสารก่อนยื่นวีซ่า? ลองดูเหตุผลเหล่านี้

  • สถานทูตของแต่ละประเทศต้องการเอกสารที่สามารถตรวจสอบและเข้าใจได้ทันที โดยส่วนใหญ่จะรับเฉพาะ ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาทางการของประเทศปลายทาง แต่เอกสารส่วนใหญ่ที่ออกโดยหน่วยงานราชการไทยจะเป็นฉบับภาษาไทยเท่านั้น จึงจำเป็นต้องแปลให้เป็นภาษาปลายทางก่อน
  • การแปลเอกสารช่วยให้ข้อมูลในเอกสารดูเข้าใจง่าย เป็นทางการ และสามารถอ้างอิงได้อย่างถูกต้อง ช่วยลดความคลุมเครือในการตรวจสอบข้อมูล โดยเฉพาะชื่อ-นามสกุล สถานที่ทำงาน หรือสถานศึกษา
  • เอกสารที่แปลอย่างถูกต้อง โดยนักแปลมืออาชีพ หรือได้รับการรับรอง (Certified Translation) ทำให้สถานทูตเชื่อมั่นในความถูกต้องของข้อมูลมากขึ้น ถือเป็นการแสดงความพร้อมและความตั้งใจในการยื่นวีซ่าอย่างเป็นระบบ

เอกสารใดบ้างที่ต้องแปล สำหรับยื่นวีซ่า

การเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าให้ครบและถูกต้อง ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การขอวีซ่าผ่านได้ง่ายและเร็วขึ้น โดยเฉพาะเอกสารที่ต้องแปล ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้วต้องแปลอะไรบ้าง และต้องแปลแค่ไหนถึงจะใช้ได้ มาดูตัวอย่างเอกสารที่ต้องแปล ดังนี้

1. เอกสารส่วนตัว

เอกสารเหล่านี้ใช้เพื่อยืนยันตัวตน ความสัมพันธ์ และประวัติส่วนตัว เช่น

  • บัตรประชาชน
  • ทะเบียนบ้าน
  • สูติบัตร (ใบเกิด)
  • ทะเบียนสมรส / ใบหย่า (ถ้ามี)
  • ใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล (ถ้ามี)
  • หนังสือเดินทาง (Passport)

2. เอกสารทางการเงิน

เอกสารการเงินควรอัปเดตล่าสุด และแปลตรงตามรูปแบบของต้นฉบับ

  • หนังสือรับรองฐานะทางการเงิน
  • Statement ย้อนหลัง 3-6 เดือน
  • หนังสือรับรองรายได้
  • สลิปเงินเดือน / หนังสือรับรองการทำงาน

3. เอกสารการศึกษา

กรณีที่ยื่นวีซ่านักเรียน จะต้องแปลเอกสารทางการศึกษาต่าง ๆ เช่น

  • ใบแสดงผลการเรียน (Transcript)
  • ใบรับรองจบการศึกษา (Certificate of Graduation)
  • จดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย
  • หนังสือรับรองทุน / ค่าใช้จ่าย (ถ้ามี)

4. เอกสารการทำงาน (หากยื่นวีซ่าทำงาน)

หรือหากเป็นกรณียื่นวีซ่าทำงาน จะเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น

  • หนังสือรับรองการทำงาน
  • หนังสือแต่งตั้ง / สัญญาจ้าง
  • Resume / CV ภาษาอังกฤษ
  • ใบประกอบวิชาชีพ / วุฒิบัตร

5. เอกสารเพิ่มเติมอื่น ๆ

  • ตั๋วเครื่องบิน / แผนการเดินทาง
  • หลักฐานการจองโรงแรม
  • หนังสือรับรองจากผู้สนับสนุน (Sponsor Letter)
  • หนังสือเชิญ (Invitation Letter)
แปลเอกสารสำหรับยื่นวีซ่าเองได้ไหม?

แปลเอกสารสำหรับยื่นวีซ่าเองได้ไหม? หรือจำเป็นต้องใช้บริการนักแปลมืออาชีพ

เมื่อต้องแปลเอกสารยื่นขอวีซ่า เชื่อว่าหลายคนอาจมีคำถามว่า “เอกสารต่าง ๆ ที่ต้องแปลนั้น… แปลเองได้ไหม?” หรือ “ต้องจ้างนักแปลมืออาชีพทุกครั้งหรือเปล่า?”
คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง ประเภทของเอกสาร และข้อกำหนดของสถานทูต” แต่ถ้ามองในมุมของความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และโอกาสผ่านวีซ่าในรอบเดียว การใช้บริการแปลโดยมืออาชีพก็ถือเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างจริงจัง เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน มาดูกันว่าการแปลเอกสารยื่นวีซ่าด้วยตัวเอง กับใช้บริการแปลภาษา แบบไหนตอบโจทย์มากกว่ากัน

กรณีแปลเอกสารสำหรับยื่นวีซ่าเอง

ในทางเทคนิค คุณสามารถแปลเอกสารด้วยตัวเองได้ หากคุณมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับดี แต่ควรพิจารณาประเด็นต่อไปนี้ก่อน

  • มีบางประเทศไม่รับเอกสารที่แปลเอง สถานทูตบางแห่งระบุชัดเจนว่าเอกสารแปลต้องมาจากนักแปลที่ได้รับอนุญาต หรือมี “รับรองคำแปล” จากบริษัทแปลเท่านั้น
  • แปลผิดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน เช่น การใช้คำราชการผิด การเว้นวรรค/จัดรูปแบบเอกสารไม่ดี ทำให้เอกสารไม่เป็นทางการ
  • เอกสารที่แปลเองไม่มีการรับรอง (Certified Translation) ซึ่งเป็นสิ่งที่สถานทูตหลายประเทศต้องการเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล

กรณีแปลเอกสารสำหรับยื่นโดยนักแปลมืออาชีพ

การแปลเอกสารยื่นวีซ่าโดยนักแปลมืออาชีพให้ประโยชน์หลายด้าน ได้แก่

  • ถูกต้องตามหลักภาษาและรูปแบบราชการ เนื่องจากนักแปลมืออาชีพหรือศูนย์แปลภาษามีประสบการณ์ด้านการแปลเอกสารราชการมาอย่างยาวนาน จึงเข้าใจและคำศัพท์ที่เป็นทางการ ดูน่าเชื่อถือ
  • สามารถออกหนังสือรับรองคำแปลได้ หรือใช้บริการในนามบริษัท จะได้รับการรับรองคำแปลในเอกสารจากบริษัทโดยตรง ซึ่งสามารถใช้ยื่นสถานทูตได้ทันที โดยไม่ต้องแก้ไขหรือแปลใหม่
  • ลดความเสี่ยงในการตีเอกสารกลับ เอกสารที่แปลถูกต้องครบถ้วนตั้งแต่ต้น ไม่ต้องเสียเวลาในการส่งกลับมาแก้ ช่วยเพิ่มโอกาสให้วีซ่าผ่านในรอบเดียว

สรุปคือ หากคุณต้องการความมั่นใจตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไขหลายรอบ การใช้บริการแปลเอกสารโดยนักแปลมืออาชีพ ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในแง่ของเวลา คุณภาพ และโอกาสในการผ่านวีซ่าในรอบเดียว เพราะการแปลเอกสารสำหรับยื่นวีซ่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เอกสารที่แปลครบ ถูกต้อง และเป็นทางการ จะช่วยให้การขอวีซ่าของคุณผ่านง่าย ไม่ต้องกลับมาแก้ซ้ำ เพราะจะทำให้เสียเวลา และเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น หากคุณสนใจใช้บริการแปลเอกสารยื่นวีซ่า โปรดอย่ารอช้าที่จะติดต่อเรา หรืออ่านรายละเอียดบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่

อ่านเพิ่มเติม

บทความน่ารู้

ทั้งหมด
เอกสารราชการ คืออะไร ทำไมจึงต้องแปลเอกสารราชการ

เอกสารราชการ คืออะไร ทำไมจึงต้องแปลเอกสารราชการ

แปลภาษาที่ไหนดี งานแปลคุณภาพ ราคาย่อมเยา

แปลภาษาที่ไหนดี งานแปลคุณภาพ ราคาย่อมเยา

การประทับตรารับรองในเอกสารสำคัญอย่างไร

การประทับตรารับรองในเอกสารสำคัญอย่างไร

ทำไมต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการแปลเอกสารทางการแพทย์?

ทำไมต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการแปลเอกสารทางการแพทย์?