การเขียนอีเมล จดหมาย โน้ตย่อ และการ์ดเชิญ ตอนที่ 6

การเขียนอีเมล จดหมาย โน้ตย่อ และการ์ดเชิญ ตอนที่ 6

โน้ตย่อหรือเค้าโครงการจดบันทึกเป็นวิธีการจัดระเบียบข้อมูลหรือการจดจำสาระสำคัญโดยใช้คำสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยสาระสำคัญ ที่ช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ดังนั้นเรามาเขียนโน้ตย่อภาษาจีน และการเขียนการ์ดเชิญภาษาจีนที่ถูกต้อง

 
 

การเขียนโน้ตย่อ ภาษาจีน

ในบทความนี้เราจะพามาดูการเขียนโน้ตย่อ ภาษาจีน และการเขียนการ์ดเชิญ ภาษาจีน ในเบื้องต้น พร้อมตัวอย่างประกอบเพื่อให้เข้าใจง่าย ตามไปดูกันเลย

 
 

9. โน้ตย่อ [ 留言条 liúyán tiáo (หลิว เหยียน เถียว) ]

โน้ตย่อเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเขียนให้เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมชั้นเรียน เพื่อนร่วมบ้าน เพื่อน หรือคนในครอบครัว การเขียนโน้ตย่อนั้นจะมีอยู่ 3 กรณี และมีวิธีการเขียนแบบเดียวกันค่ะ ดังนี้

 
 

9.1 เมื่อคนที่เราไปหาไม่อยู่

เมื่อเราไปหาใครสักคน แต่ไม่เจอ จึงเขียนโน้ตไว้ให้ติดต่อกลับ โดยหลักการเขียนโน้ตย่อ ควรมีหัวข้อดังนี้

  • คนที่เขียนถึง (ในกรณีนี้คือบุคคลที่เราไปหา แต่ไม่เจอ)
  • เนื้อหา
  • ชื่อ (ชื่อคนที่เขียนจดหมาย)
  • วันที่
 
 

ตัวอย่าง

小丽 : (ชื่อคนที่เราจะเขียนโน้ตหา)

        今晚7:00, 我和阿林要去J商吃饭、买东西。其实我们去你房间找了你,但是你不在。如果你想跟我们一起去,请给我或阿林打电话。(เนื้อหาข้อความที่จะสื่อ)

黄微微 (ชื่อคนที่เขียนจดหมาย)
10月10日 (วันที่เขียนจดหมาย)

 
 

9.2 ฝากข้อความไว้ให้คนในบ้าน

เมื่อคนที่เราต้องการไปหาไม่อยู่ แต่ก็ยังเจอคนในบ้าน เราสามารถเขียนโน้ตย่อฝากคนที่อยู่บ้านได้ โดยควรมีหัวข้อของโน้ตดังนี้

  • คนที่เขียนถึง (หากเป็นพี่/น้องจะเขียนชื่อ หรือจะใช้ 哥哥、弟弟、姐姐、妹妹 ก็ได้)
  • เนื้อหา
  • ชื่อ (ใส่เป็นชื่อเล่นก็ได้)
  • วันที่/เวลา
 
 

ตัวอย่าง

妈妈 :(ชื่อคนที่เราจะเขียนโน้ตหา หรือใช้ 哥哥、弟弟、姐姐、妹妹 ก็ได้)

        今天我跟阿林一起去图书馆看书。在下午5点就回来了。妈不用担心,阿林的妈妈会开车送我回来。(เนื้อหาข้อความที่จะสื่อ)

小微 (ชื่อคนที่เขียนจดหมาย)
即日3 :00 (วันที่/เวลาเขียนจดหมาย)

 
 

9.3 ฝากข้อความไว้ให้ผู้อื่น

เมื่อคนที่เราต้องการไปหาไม่อยู่ ต้องการฝากโน้ตไว้กับข้างบ้าน หัวข้อของโน้ตย่อควรมีดังนี้

  • คนที่เขียนถึง
  • เนื้อหา
  • ชื่อ (ใส่เป็นชื่อเล่นก็ได้)
  • วันที่
 
 

ตัวอย่าง

小鹿:(ชื่อคนที่เราจะเขียนโน้ตหา)

        今天你弟弟来找你可是你不在,所以他要我转告你,你哥哥回来了赶紧回家。(เนื้อหาข้อความที่จะสื่อ)

微微 (ชื่อคนที่เขียนจดหมาย)
即日1:00 (วันที่/เวลาเขียนจดหมาย)

 
 

การเขียนการ์ดเชิญ ภาษาจีน

การ์ดเชิญที่เห็นได้และคุ้นชินกันในปัจจุบันก็คงจะเป็นการ์ดเชิญงานมงคลสมรส หรืองานแต่งงานใช่ไหมล่ะคะ ที่พอเห็นบ้าง หรือผ่านๆตามาหน่อยก็จะเป็นการ์ดเชิญสำหรับร่วมงานต่างๆ โดยที่ไม่มีกำหนดเวลาให้ส่งใบตอบรับคำเชิญเข้าร่วมงาน หรือบางงานก็ไม่มีใบตอบรับคำเชิญเลย ซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างจากของจีนเล็กน้อยค่ะ

 
 

10. การ์ดเชิญ [请柬qǐngjiǎn (ฉิง เจี่ยน)]

เหล่าซือคนจีนของผู้เขียนเคยเล่าให้ฟังว่า การ์ดเชิญของชาวจีนเนี่ย บางครั้งจะมีใบตอบรับคำเชิญ และเจ้าของงานจะกำหนดวันให้ผู้ที่ถูกเชิญส่งใบตอบรับว่าสามารถมาเข้าร่วมงานได้หรือไม่ เพื่อเป็นการเช็คจำนวนคนร่วมงาน และเตรียมสิ่งต่างๆภายในงานให้พอดีกับจำนวนคน ถึงแม้ว่างานเลี้ยงนั้นจะเป็นแค่เพียงปาร์ตี้วันเกิดเล็กๆ ที่อยากสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนก็ตาม

 
 

รายละเอียดในการเขียนการ์ดเชิญ ภาษาจีน

ฟังดูเก๋ดีใช่ไหมล่ะคะ เอาล่ะ! เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่ามีรายละเอียดในการเขียนการ์ดเชิญอย่างไรบ้าง

  • ขึ้นหัวกระดาษด้วย “请柬”(ขนาดจะใหญ่กว่าตัวอักษรอื่นๆสักหน่อย และต้องเขียนให้ห่างกันเล็กน้อยนะคะ)
  • ถ้าหากเป็นงานเลี้ยงที่จำนวนคนไม่มากนัก ให้เขียนชื่อบุคคลที่เราต้องการเชิญด้วยนะคะ แต่ถ้าเป็นงานเลี้ยงที่มีจำนวนคนมาก ไม่ต้องเขียนชื่อบุคคลที่เชิญก็ได้ค่ะ
  • เขียนกิจกรรม หรือประเภทของงานเลี้ยงให้ชัดเจน
  • เขียนเวลาให้ชัดเจน
  • สถานที่จัดงานก็ใส่ให้ชัดเจนนะคะ
  • ลงท้ายด้วย “届时”( jièshí เจี้ย สือ ) ที่เป็นภาษาหนังสือของคำที่มีความหมายว่า “พอถึงเวลานั้น”และต่อด้วยคำว่า“敬请光临”( jìng qǐng guānglín จิ้ง ฉิ่ง กวง หลิน) ที่เป็นภาษาหนังสือของคำที่มีความหมายว่า “ขอเชิญคุณมาร่วมงาน”
  • หน่วยงาน หรือคนที่ออกการ์ดเชิญ
  • วันที่ออกการ์ดเชิญ
 
 

สรุปการเขียนโน้ตย่อ ภาษาจีน ตอนที่ 6

ก็จบไปแล้วสำหรับเกร็ดความรู้เรื่อง การเขียนอีเมลล์ จดหมาย โน้ตย่อ และการ์ดเชิญ ทั้ง 6 ตอน เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? หวังว่าเกร็ดความรู้ในเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกๆท่าน ไม่มากก็น้อยนะคะ หากใครที่เริ่มเรียนภาษาจีนใหม่ แล้วอยากลองฝึกเขียนดู สามารถดูบทความอื่นๆมาเพื่อประกอบการเขียนได้นะคะ บทความ ภาษาจีน

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่านที่กำลังสนใจ พึ่งเริ่มต้นเรียนภาษาจีนใหม่ หรือเรียนไปแล้วเกิดรู้สึกท้อขึ้นมานะคะ การเรียนภาษาไม่ใช่สิ่งที่ง่าย แต่ก็ไม่ได้อยากเกินความสามารถของทุกคนค่ะ 加油!^^

 

บทความ ภาษาจีน